ข้าวยำปักษ์ใต้
นาซิกาบู หรือ ข้าวยำ
เป็นอาหารประจำท้องถิ่นของภาคใต้ ซึ่งนิยมกินเป็นอาหารเช้าหรืออาหารเย็น และเป็นอาหารจานเดียวที่ให้สารอาหารครบถ้วนทั้ง 5 หมู่
แถมยังเป็นอาหารธรรมชาติที่ให้วิตามินและเกลือแร่ จากผักสดๆ และยังมีเส้นใยสูง
เหมาะกับคนที่ต้องการลดน้ำหนัก หรือควบคุมน้ำหนัก
อีกทั้งยังช่วยให้ระบบขับถ่ายดีอีกด้วย
ส่วนประกอบ
- ผักต่างๆ (ถั่วงอก มะนาว ตะไคร้ ถั่วฝักยาว ข่า ใบมะกรูด ใบชะพลูหั่นฝอย มะม่วงขูด)
- เส้นหมี่ผัด
-มะพร้าวคั่ว
- ปลาป่นหรือกุ้งแห้งป่น
-น้ำบูดู
‘น้ำบูดู’ ทำมาจากการหมักปลากับเกลือในโอ่งหรือไห
แล้วปิดผนึกไว้ อาศัยเอนไซม์และจุลินทรีย์จากปลาที่มีอยู่แล้วตามธรรมชาติ
ใช้เวลาในการหมักประมาณ 8-15 เดือน คล้ายการทำน้ำปลา ต้องเขย่าให้เข้ากันก่อนรับประทาน
วิธีการทำน้ำบูดูของข้าวยำ ต้องนำมาปรุงใส่ตะไคร้ทุบ ข่าทุบ หอมแดงทุบ
ใบมะกรูด น้ำตาลปีบ ต้มจนเดือดแล้วกรองเอากากออก ซึ่งจะได้รสชาติหวานๆ เค็มๆ
วิธีการกิน
นำทุกอย่างมาใส่รวมกันในสัดส่วนที่พอเหมาะ
โรยพริกป่นเพิ่มความเผ็ดอีกสักนิด คลุกเคล้าเครื่องทุกอย่างให้เข้ากัน
ตักทานได้เลย จะได้สัมผัสของความสดชื่น หวานๆ เค็มๆ กลมกล่อม
ได้ความหอมของสมุนไพรต่างๆ เคี้ยวเพลิน ทานกับไข่ต้ม ก็ช่วยเพิ่มความอร่อยยิ่งขึ้น
ประโยชน์ทางอาหาร
ข้าวยำที่ปรุงสำเร็จแล้ว จะออกรสหลายรสด้วยกัน ได้แก่ รสชาติมันของมะพร้าว
รสเปรี้ยวจากมะม่วงดิบ และน้ำมะนาว รสเค็มหวานจากน้ำบูดู รสเผ็ดของพริกป่น
เรียกว่าเป็นอาหารที่บำรุงธาตุก็ไม่ผิดนัก อร่อยครบเครื่องด้วยสุขภาพ
แล้วยังสามารถต้านมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ด้วย
เนื่องจากข้าวยำเป็นอาหารที่มีเส้นใยจากผักหลายชนิด จากข้าวกล้องเป็นจำนวนมาก
หากการกินอาหารที่ไม่มีเส้นใย หรือมีไขมัน และเนื้อสัตว์มากเกินไป
อาหารพวกนี้เมื่อถูกกับน้ำย่อยแล้ว จะก่อตัวเหนียวเกาะติดกับผนังลำไส้ใหญ่
หากไม่ได้ถ่ายทิ้งนานเข้าจะทำให้เกิดสารก่อมะเร็ง เกิดเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้
ดังนั้นจึงควรหันมากินอาหารที่มีเส้นใยจากผัก ผลไม้ และข้าวกล้อง ฯลฯ กันดีกว่า
ข้อแตกต่างของข้าวยำในแต่ละพื้นที่
โดยปกติแล้วในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัตตานี ยะลา และ นราธิวาส จะนิยมกินข้าวยำกับน้ำบูดู ส่วนจังหวัดในภาคใต้ตอนบน จะนิยมกินกับกะปิ โดยนำกะปิมาผัดกับเครื่องแกงจนมีลักษณะเหมือนน้ำพริกแกงข้นๆ ส่วนเครื่องเคียงหรือส่วนผสมต่างๆก็จะมีลักษณะคล้ายคลึงกัน
จังหวัดปัตตานีนอกจากจะมีข้าวยำบูดูแล้ว ยังมีข้าวยำเครื่องแกง นาสิกาบูตูมิส ที่มีรสชาติโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ที่นิยมรับประทานเป็นอาหารเช้าเช่นเดียวกันกับข้าวยำบูดู จะแตกต่างกันที่นาสิกาบูตูมิสมีน้ำราดเป็นผัดเครื่องแกงแทนน้ำบูดู
ส่วนผสมของนาสิกาบูตูมิส
- - ข้าวสวยหุงด้วยน้ำขมิ้น
- - ผักสดซอย เช่น แตงกว่า ผักบุ้ง ถั่วฝักยาว ยอดกระถิ่น เป็นต้น
- - สมัน
- - พริกน้ำส้ม
ส่วนผสมเครื่องแกงตูมิ
- - กะทิ
- - กะปิ
- - เกลือ
- - ส้มแขก
- - กระเทียม
- - ขิง
- - พริกแห้งเม็ดใหญ่
- - หัวหอม
วิธีทำข้าวยำตูมิส
ทำน้ำตูมิสโดยตั้งกะทิให้เดือด ใส่เกลือ ส้มแขก กระเทียม และเครื่องแกงลงไป เคี่ยวน้ำกะทิจนน้ำแกงเกือบแห้ง แล้วยกออกจากเตา
วิธีทำสมัน
สมันหรือซามาของข้าวยำ ประกอบด้วย มะพร้าวคั่ว ปลาต้ม มะนาว หัวหอม และตะไคร้โขลกให้ละเอียดแล้วปรุงรสด้วยน้ำตาลเล็กน้อย
วิธีรับประทานข้าวยำตูมิส
รับประทานเป็นอาหารจานเดียว ข้าวสวยหุงด้วยน้ำขมิ้น ผักสดซอย น้ำตูมิ และสมันปลา คลุกเคล้าให้เข้ากัน และเพิ่มรสชาติตามชอบโดยปรุงรสด้วยพริกน้ำส้ม หรือ พริกสด
ประโยชน์และคุณค่าทางโภชนาการ
ข้าวสีเหลืองที่หุงด้วยน้ำขมิ้น มีสรรพคุณแก้ท้องอืด เพราะมีรสฝาดและสมานแผลในลำไส้ ผักอื่นๆมีสารอาหารแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายหลากหลายชนิด ลดปัณหาสุขภาพเพราะอุดมไปด้วยวิตามินต่างๆมากมาย ที่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงอีกด้วย
Nasi kerabu
Nasi kerabu salah satu makanan khas Malaysia dan beberapa kawasan selatan Thailand seperti Pattani, Yala, danlain-lain. Ia adalah nasi biru. Warna biru dari nasi berasal dari kelopak bunga telang. Kerabu bermakna campuran daun mentah (ulam). Aroma nasi kerabu berasal dari daun rempah halus, seperti bunga kecombrang, daun kesum, daun kaduk, daun kerbau, daun kunir, atau daun kencur. Padi kerabu berbeza dari padi ulam yang biasanya tidak berwarna biru. Nasi kelabu dihidangkan dengan pelbagai hidangan seperti ikan masin goreng, kelapa parut, ayam goreng, ayam pedas telur asin, atau keropok. Sebagai teman, terdapat sos yang dibuat dari ikan bilis yang disebut budu.Nasi kelabu berasal dari pantai timur Malaysia seperti Kelantan dan Terengganu. Selain beras kerabu yang berwarna biru, ada nasi kerabu yang memiliki warna lain seperti kuning dengan kunyit pewarna atau putih tanpa pewarna.
Bahan-bahan
- - Nasi
- - sayuran ( kubis ,serai, daun limau,dan
lain-lain )
- - Mee goreng.
- - Kelapa
panggang.
- - ikan atau udang kering.
- - budu.
Cara-cara
- - Basuh beras dan masak seperti biasa. Kalau suka, boleh tambahkan sedikit pewarna. (Biasanya nasi kerabu berwarna biru.
- - Untuk sambal kelapa : Tumbuk bawang merah dan halia sehingga lumat, masukkan lada hitam, tumbuk lagi dan masukkan gula melaka dan gula. Seterusnya masukkan ikan yang telah direbus dan dibuang tulang. Tumbuk sehingga lumat dan sebati semua bahan2 tadi. Ketepikan.
- - Goreng kelapa parut sehingga agak keperang-peranggan. setelah itu, masukkan ke dalam mangkuk dan campurkan bahan2 yang ditumbuk tadi. Gaul sehingga semua bahan sebati dengan kelapa goreng.
- - Untuk kerabu: Potong kacang panjang, daun kesom dan kubis. Gaulkan sekali dengan taugeh.
- - Untuk Sambal cili: Tumbuk cili bersama sedikit gula dan garam. Perahkan limau nipis dan masukkan sedikit cuka.
- -Akhir sekalisa, hidangkan nasi kedalam pinggan, letakkan sambal kelapa, kerabu, sambal cili dan budu. Untuk lebih sedap, makan bersama daging panggang, telur masin dan keropok.
Nasi kerabu tumis
Nasi kerabu tumis sarapan pagi bersama dengan nasi kerabu budu juka. nasi kerabu tumis makan dengan tumis minyak dan berwarna kuning tetapi nasi kerabu makan dengan budu danberwarna biru.
Cara-cara nasi:
- - Basuh beras
- - Masukkan semua bahan, masak nasi seperti nasi biasa
- - Bahan-bahan sambal tumis:
- - cili kering
- - bawang besar
- - bawang putih
- - halia
- - kunyit hidup
- - santan pekat
- - serai
- - Garam dan gula melaka secukupnya
- - Minyak masak untuk menumis
Cara-cara sambal tumis:
- - Kisar cili kering, bawang besar, bawang putih, halia dan serai hingga lumat
- - Panaskan minyak, tumis semua bahan tadi sehingga garing dan naik bau
- - Masukkan santan pekat, kunyit, asam gelugor, budu atau sos ikan garam dan gula.Kacau rata
- - Biarkan mendidih
- - Tutup api apabila sambal sudah pekat
Cara makan nasi kerabu tumi
makan nasi kerabu tumi .Nasi kukus dengan sos kunyit, sayuran, kicap dan sos ikan dicampur bersama. Tambahkan rasa yang anda suka dengan cili atau cili segar.
อ้างอิง https://ms.wikipedia.org/wiki/Nasi_kerabu
http://masratulhawa-jommakan.blogspot.com/2011/09/nasi-kerabu.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น